ต้องเก็บเงินสำรองให้ครบก่อน ถึงจะเริ่มลงทุนได้ ใช่...

ต้องเก็บเงินสำรองให้ครบก่อน ถึงจะเริ่มลงทุนได้ ใช่มั้ยคะโค้ชชชชช
.
หลายคนคงเคยได้ยินคำแนะนำที่ว่า “ก่อนลงทุน! ควรเก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินให้ครบเสียก่อน” แต่ก็นะ การลงทุนช่วงนี้มันช่างยั่วยวนใจเหลือเกิน จะขอลุยขอลุ้นกับการลงทุนสักหน่อย โดยไม่ต้องรอให้เก็บเงินสำรองครบได้มั้ย???
.
โดยปกติแล้วเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินเนี่ย คือ เงินที่เราสะสมไว้ใช้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามที่รายได้หายหรือหดไป จะได้ไม่ต้องไปหยิบยืมหรือเป็นหนี้ใคร
.
โดยหลักแล้วเราควรมีเงินสำรอง เพียงพอไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้อย่างน้อย 6 เดือน (เดี๋ยวนี้บางคนก็ไป 12 เดือนนู่นเลย) เช่น ถ้าเรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 1 หมื่นบาท เราก็ควรมีเงินสำรองไว้กันเหนียวสัก 6 หมื่นบาท แบบนี้เป็นต้น
.
ส่วนคำถามที่ว่า ต้องรอให้เก็บเงินสำรองได้ครบก่อน ค่อยลงทุน จริงมั้ย??
.
ตอบตรงนี้ว่า “ไม่จำเป็น” อาจขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เช่น หากวันนี้รายได้เรายังปกติ บริษัทที่ทำงานด้วยดูแข็งแกร่ง จ่ายตรง ไม่เลท ไม่เบี้ยว ไม่ลด ไม่หัก แบบนี้เราก็อาจแบ่งเงินที่ออมได้ในแต่ละเดือน เอาไว้ออมเพื่อสำรองครึ่งหนึ่ง แล้วอีกครึ่งก็เอาไว้ลงทุน แบบนี้ก็ได้ครับ (สัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์จัดสรรกันเองเน้อ)
.
สามารถทำไปพร้อมๆ กันได้ สบม.ยห. หรืออีกนัยหนึ่งคือ ป้องกันความเสี่ยง​ (เงินสำรอง) ไปพร้อมๆ กันกับการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต (เงินลงทุน)
.
แต่ถ้าโอ้โห้ … งานที่ทำเริ่มมีปรับลดพนักงาน เพื่อนที่นั่งข้างหายไปแล้ว (ถูกให้ออก) แบบนี้ถ้ามีเงินออม ก็กันไว้สำรองก่อนดีกว่านะครับ​ (พร้อมกับแอบยื่นใบสมัครงานที่อื่นด้วย 555)
.
เอาเข้าจริงเรื่องการเงินส่วนบุคคลบางเรื่องไม่ได้มีกติกาเป๊ะตายตัวหรอกนะครับ อาจต้องดูบริบทและสถานการณ์ชีวิตของแต่ละคนประกอบด้วย
.
การเก็บเงินสำรองก็สำคัญ การลงทุนเพื่อสร้างอนาคตก็สำคัญ ถ้าทำพร้อมกันได้ ทำไปพร้อมกันเลยครับพ้มมมมม

#TheMoneyCoachTH

---